Canvas Studio สามารถใช้งานแบบแยกเดี่ยว แต่จุดเด่นสำคัญคือการผสานส่วนการทำงานต่าง ๆ Studio ผสานการทำงานกับ Canvas และช่วยให้ผู้สอนผสานรวมการโต้ตอบผ่านมีเดียมีเดียเข้ากับห้องเรียนได้อย่างราบรื่น
เมื่อ Studio ผสานรวมเข้ากับ Canvas ผู้ใช้ Studio ทุกคนสามารถใช้ Studio เป็นเครื่องมือจากภายนอกผ่าน Rich Content Editor Rich Content Editor เป็นส่วนหนึ่งของคุณสมบัติหลายอย่างใน Canvas รวมถึงภารกิจ (Assignments) การพูดคุย (Discussions) และเพจ (Pages) สำหรับผู้เรียน Rich Content Editor ยังสามารถใช้งานในกลุ่มบทเรียนและในผลงานจัดส่งภารกิจการกรอกข้อความ (Text Entry)
ตามค่าเริ่มต้น ไฟล์มีเดียที่ผนวกจะสามารถเพิ่มความเห็น โดยสามารถลบความเห็นได้ตามความต้องการของผู้ใช้ หากปิดใช้งานแท็บมีเดียไว้ มีเดียของ Canvas Studio ที่ผนวกไว้จะสามารถปรับขนาดได้ในอินเทอร์เฟซผู้ใช้
หมายเหตุ: ฟังก์ชั่น Studio บางส่วนอาจสามารถใช้งานได้ผ่าน Rich Content Editor ขึ้นอยู่กับบทบาทผู้ใช้ของคุณ เมนูการสืบค้นเนื้อหาส่วนกลาง (Global Navigation Menu) จะมีลิงค์ไปยัง Studio คุณสามารถจัดการวิดีโอได้ทุกเวลาโดยตรงผ่านบัญชี Studio ผู้สอนสามารถใช้งาน Studio ผ่านส่วนการสืบค้นเนื้อหาบทเรียน (Course Navigation)
ดูไอคอน Studio ใน Rich Content Editor
ในฐานะเครื่องมือจากภายนอก สามารถใช้งาน Studio ได้ผ่านไอคอน Studio ใน Rich Content Editor [1] ไอคอนถูกใช้เมื่อมีการผนวกมีเดียใน Rich Content Editor
ผู้สอนยังสามารถเพิ่มภารกิจมีเดีย Studio ด้วยการผสานรวม Studio ผู้สอนสามารถให้เกรดผลงานจัดส่งใน SpeedGrader เช่นเดียวกับภารกิจ Canvas อื่น ๆ
หมายเหตุ:
- ในการดูไอคอน Studio คุณอาจจะต้องคลิกที่ไอคอนตัวเลือก [2]
- นอกจากนี้คุณยังอาจต้องเรียกใช้เครื่องมือ Studio จากไอคอนแอพ [3]
ดูไลบรารี่มีเดีย
เมื่อผนวกไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียง ผู้ใช้สามารถค้นหาและดูมีเดียที่มีอยู่และอัพโหลดมีเดียใหม่ได้
ผู้ใช้ที่มีบทบาทเป็นผู้สอนยังสามารถดูข้อมูลอัพโหลดสำหรับแต่ละบทเรียนได้อีกด้วย
ขณะส่งไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงสำหรับภารกิจ ผู้เรียนสามารถส่งมีเดีย Studio ผ่าน Rich Content Editor เป็น ผลงานจัดส่งการกรอกข้อความ (Text Entry) หรือสามารถใช้งานมีเดีย Studio ของตนเองโดยตรงเป็นผลงานจัดส่งการอัพโหลดไฟล์ (File Upload)
เลือกมีเดีย
เลื่อนเมาส์ไปที่มีเดียที่คุณต้องการเลือก [1] จากนั้นคลิกที่ปุ่ม เลือก (Select) [2]
แสดงหรือซ่อนแท็บมีเดีย
คุณสามารถแสดงแท็บมีเดีย (Media Tabs) ได้ในไฟล์มีเดียที่ผนวกไว้ แท็บมีเดีย (Media Tabs) อาจประกอบไปด้วยแท็บรายละเอียด (Details) ความเห็น (Comments) ข้อมูลเชิงลึก (Insights) และคำบรรยาย (Captions) ซ่อนแท็บมีเดีย (Media Tabs) ในไฟล์มีเดียที่ผนวกไว้โดยคลิกที่ปุ่มเปิดปิด แท็บแสดงมีเดีย (Display Media Tabs)
หมายเหตุ: ตามค่าเริ่มต้น ตัวเลือกนี้อาจเปิดหรือปิดทำงานอยู่ ผู้ดูแลระบบสามารถกำหนดได้ว่าจะเปิดหรือปิดเป็นค่าเริ่มต้นผ่าน ค่าปรับตั้ง Studio
ผนวกที่หมายเหตุกำกับเวลา
หากคุณกำลังผนวกมีเดียจากภายนอก เช่น YouTube หรือ Vimeo คุณสามารถกำหนดค่ามีเดียให้เริ่มเล่นที่หมายเหตุกำกับเวลาที่กำหนด
ผนวกมีเดียที่หมายเหตุกำกับเวลาที่ต้องการโดยคลิกหรือเปิดเล่นวิดีโอในเวลาที่ต้องการ [2] จากนั้นคลิกที่ปุ่ม ตั้งค่าเป็นเวลานี้ (Set current) [3] เวลาที่จัดแสดงที่ปุ่ม ตั้งค่าเป็นเวลานี้ (Set current) ในฟิลด์ หมายเหตุกำกับเวลา (Timestamp) [3] หรือกรอกเวลาโดยตรงในฟิลด์หมายเหตุกำกับเวลา (Timestamp)
หมายเหตุ: ตัวเลือกเพื่อเริ่มมีเดียที่ผนวกไว้ในเวลาที่กำกับจะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อมีเดียมาจาก YouTube หรือ Vimeo เท่านั้น
ปรับขนาดมีเดียที่ผนวกไว้
ปรับขนาดมีเดียที่ผนวกไว้โดยคลิกปิดใช้งาน แสดงแท็บมีเดีย (Display media tabs) [1] จากนั้นคลิกที่ปุ่ม ผนวก (Embed) [2]
เปิดตัวเลือกมีเดียของ Studio
คลิกที่หน้าต่างวิดีโอเพื่อแสดงป๊อปอัพตัวเลือกมีเดียของ Studio (Studio Media Options) จากนั้นคลิกที่ลิงค์ ตัวเลือกมีเดียของ Studio (Studio Media Options)
ถาดตัวเลือกมีเดีย Studio (Studio Media Options) จะแสดงข้อมูลเกี่ยวกับมีเดีย รวมทั้งชื่อมีเดีย รวมทั้งตัวเลือกในการแสดงผลและขนาด
คุณสามารถกำหนดค่าการแสดงผลมีเดียที่ผนวกเอาไว้ ผนวกวิดีโอโดยตรงไปยัง Rich Content Editor โดยคลิกที่ปุ่มเลือก ผนวกวิดีโอ (Embed Video) [1] แสดงลิงค์ข้อความเพื่อเปิดมีเดียในแท็บใหม่โดยคลิกที่ปุ่มเลือก แสดงลิงค์ข้อความ (เปิดในแท็บใหม่) (Display Text Link (Opens in a new tab)) [2]
เลือกขนาดกำหนดสำเร็จจากรายการโดยคลิกที่เมนูแสดงรายการ ขนาด (Size) [3] ตัวเลือกกำหนดขนาดเบื้องต้นครอบคลุมทั้งขนาดปานกลาง ใหญ่และใหญ่พิเศษ
กรอกขนาดกำหนดเองโดยเลือกตัวเลือก กำหนดเอง (Custom) [4] กรอกความกว้างหรือความสูงกำหนดเองเป็นพิกเซลในฟิลด์ขนาด [5] ขณะที่กรอกขนาด ฟิลด์อื่น ๆ จะอัพเดตอัตโนมัติเพื่อให้สัดส่วนสมดุลกัน
บันทึกตัวเลือกที่เลือกไว้โดยคลิกที่ปุ่ม เสร็จสิ้น (Done) [6]
หมายเหตุ: ชื่อมีเดียไม่สามารถแก้ไขได้จากถาดตัวเลือกมีเดีย Studio (Studio Media Options) แก้ไขชื่อมีเดีย โดยเปิดดูรายละเอียดของมีเดีย
เปิดหรือปิดใช้งานตัวเลือกดาวน์โหลด (Download)
หากคุณกำลังผนวกมีเดียของตัวเอง คุณสามารถเปิดโอกาสให้ดาวน์โหลดมีเดียดังกล่าวได้ แสดงตัวเลือกในการดาวน์โหลดในไฟล์มีเดียที่ผนวกไว้โดยคลิกที่ปุ่มสวิตช์ แสดงตัวเลือกในการดาวน์โหลด (Display Download Option) ตามค่าเริ่มต้น ตัวเลือกนี้จะถูกปิดทำงาน
หมายเหตุ: ปุ่มสวิตช์ แสดงตัวเลือกในการดาวน์โหลด (Display Download Option) จะปรากฏขึ้นก็ต่อเมื่อคุณเป็นผู้จัดทำและอัพโหลดไฟล์มีเดียใน Studio
ผนวกมีเดีย
คลิกที่ปุ่ม ผนวก (Embed)
ดูมีเดีย
ขณะเรียกดูมีเดียที่ผนวกไว้ใน Rich Content Editor ผู้ใช้จะสามารถปรับแต่งการใช้งานผ่านส่วนควบคุมการเปิดเล่นเมนู ค่าปรับตั้ง (Settings)
ดูตัวเลือกมีเดียที่เปิดรับความเห็น
ไฟล์วิดีโอและเสียงใน Rich Content Editor อาจมีหรือไม่มีความเห็นก็ได้ ขณะเปิดใช้งานความเห็น ไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมตามบทบาทของผู้ใช้ด้วย
ดูรายละเอียดมีเดีย
ไฟล์วิดีโอและไฟล์เสียงพร้อมความเห็นจะแสดงรายละเอียดของไฟล์ ซึ่งรวมถึงชื่อ รายละเอียดและหมายเหตุกำกับที่มี รหัสเฉพาะเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงเมื่อผนวกใน Canvas ได้
เมื่อมีการเพิ่มมีเดียผ่าน Rich Content Editor ชื่อของมีเดียจะถูกจัดทำขึ้นโดยใช้ชื่อของไฟล์ที่อัพโหลด
ผู้ใช้ที่มีบทบาทเป็นผู้สอนสามารถแก้ไขรายละเอียดเพื่อเพิ่มรายละเอียดและหมายเหตุกำกับไปยังมีเดีย พวกเขายังสามารถแก้ไขชื่อได้ หากจำเป็น
ดูความเห็น
ขณะเปิดใช้งานความเห็น จุดในไทม์ไลน์จะระบุความคิดเห็น [1] ซึ่งสามารถดูได้โดยตรงในแท็บ ความเห็น (Comments) [2] ความเห็นจะถูกจัดเรียงตามลำดับเวลาและจะถูกแรเงาไว้เมื่อปรากฏในไทม์ไลน์ สามารถผนวกความเห็นไว้กับการตอบกลับจากผู้ใช้รายอื่น
ผู้ใช้ทุกคนสามารถเพิ่มความเห็นได้ ผู้ใช้ที่มีบทบาทเป็นผู้สอนสามารถจัดการความเห็นทั้งหมดสำหรับมีเดียในบทเรียนและลบความเห็นได้หากจำเป็น
ดูข้อมูลวิเคราะห์
ผู้ใช้ที่มีบทบาทเป็นผู้สอนสามารถดูข้อมูลวิเคราะห์สำหรับไฟล์วิดีโอหรือไฟล์เสียงแต่ละไฟล์ได้แบบรายบุคคล ข้อมูลวิเคราะห์ในแท็บ ข้อมูลที่น่าสนใจ (Insights) สามารถช่วยให้ผู้สอนทราบว่าผู้ใช้เปิดดูไฟล์มีเดียทั้งหมดหรือข้ามเนื้อหาไปบางส่วนหรือไม่ คุณสมบัตินี้ช่วยให้ผู้สอนเห็นว่าผู้เรียนได้ดูเนื้อหาเพียงพอแล้วหรือยังในการเตรียมตัวสำหรับภารกิจหรือการพูดคุย
