ฉันจะเพิ่มและแก้ไขข้อความใน Rich Content Editor ได้อย่างไร

คุณสมบัติหลายอย่างใน Canvas รองรับ Rich Content Editor รวมถึงประกาศ (Announcements) ภารกิจ (Assignments) การพูดคุย (Discussions) เพจ (Pages) และแบบทดสอบ (Quizzes)

คุณสามารถพิมพ์ข้อความและสามารถคัดลอกและวางข้อความจากแหล่งข้อมูลอื่นไปยัง Rich Content Editor Rich Content Editor ยังมีเครื่องมือการจัดรูปแบบหลายอย่างที่ช่วยให้คุณสามารถแก้ไขข้อความของคุณได้

Rich Content Editor รองรับชอร์ตคัทแป้นพิมพ์สำหรับการคัดลอกและการวางข้อความ

คัดลอกและวางโดยใช้ PC

  • คัดลอก (Ctrl+C) และวาง (Ctrl+V)
  • คัดลอก (Ctrl+C) และวางโดยไม่ต้องจัดรูปแบบ (Ctrl+V)

คัดลอกและวางโดยใช้เครื่อง Mac

  • คัดลอก (Command+C) และวาง (Command+V)
  • คัดลอก (Command+C) และวางโดยไม่ต้องจัดรูปแบบ (Command+Option+Shift+V)

หมายเหตุ: ผู้สอนของคุณอาจเลือกแสดงแบบอักษรอื่นสำหรับบทเรียนของคุณ แบบอักษรนี้จะปรากฏขึ้นเมื่อมีการกรอกข้อใน Rich Content Editor

00:00:How do I add and modify text in the Rich Content Editor as a student? 00:05:When creating or editing an announcement, assignment, discussion, or page, the Rich Content Editor opens by default. You can add and format content using the menubar or toolbar. 00:18:The Rich Content Editor supports keyboard shortcuts. To view a window with a list of keyboard navigation shortcuts, click the Keyboard icon or press Alt+F8 (on a PC keyboard) or Option+F8 (on a Mac keyboard) simultaneously on your keyboard. 00:37:You can view the total word count. To view the total word count, characters, and characters excluding spaces, click the Word Count link. 00:47:You can also resize the editor window or open the editor in fullscreen view. 00:52:Type or paste copied text into the Rich Content Editor. 00:56:To remove text formatting, select the text, then click the Clear Formatting icon. 01:02:Select the text you wish to modify. Then click the Paragraph drop-down menu, and select the text style you want to use. 01:10:You can choose from 8, 10, 12, 14, 18, 24, or 36pt sized fonts. 01:20:Click here 01:23:Choose from Heading 2, Heading 3, Heading 4, Preformatted, and Paragraph styles. 01:31:To create single spacing in the Rich Content Editor, press Shift+Enter (on a PC keyboard) or Shift+Return (on a Mac keyboard). This creates a line break instead of a paragraph break. 01:45:To format text emphasis, select the text you wish to format 01:50:To bold the selected text, click the Bold icon, or press Command+B (Mac keyboard) or Ctrl+B (PC keyboard). 02:01:To italicize the selected text, click the Italic icon, or press Command+I (Mac keyboard) or Ctrl+I (PC keyboard). 02:13:To underline the selected text, click the Underline icon, or press Command+U (Mac keyboard) or Ctrl+U (PC keyboard). 02:24:When selected text is formatted, an arrow displays above the selected option. 02:30:Select the text you wish to color. To change the color of the text, click the Text Color icon. 02:37:To highlight the text, click the Background Color icon. 02:41:Select a color from the color drop-down menu. You can view the color name by hovering your mouse over the color tile. 02:48:To remove color formatting, click the Remove Color icon. 02:52:To select a custom color for the text, click the Custom Color icon 02:57:Use the color picker palette to select a color tone and hue. You can also enter RGB color codes or enter a HEX color code. View your custom color in the color display window. 03:09:To apply the color to your text, click the Save button. 03:13:You can format your text to appear as superscript or subscript. Select the text you wish to modify. Click the Superscript icon. 03:22:To format your text as superscript, select the Superscript option. from the dropdown menu. To format your text as subscript, select the Subscript option. 03:33:To align text, place the cursor in front of the text you wish to align, then click the Alignment icon. 03:40:From the drop-down menu you can select to align the text to the Left, Center, and Right. 03:46:To indent text, click the Indent icon. 03:50:f your text is indented, you can outdent your text. To outdent your text, click the Indent Arrow icon and click the Outdent option. You can click the Indent and Outdent options multiple times to increase or decrease the text indentation. 04:06:To align the direction of your text, click the Format link in the menubar. 04:11:then select the Directionality option. You can align your text from Left to Right and from Right to Left. 04:18:Select the text you wish to include in your list, then click the List icon. 04:23:You can select a bulleted list style, or a numeric or alphabetic list style. 04:29:If you reload or navigate away from a page while editing content in the Rich Content Editor, Canvas automatically saves your content in the browser cache for up to one day. When you reload the page or navigate back to the page you were editing, Canvas displays a message indicating that auto-saved content exists. You can preview the content, discard the content, or load the content into the Rich Content Editor. 04:54:To preview content auto-saved by Canvas, click the Preview button. 04:59:To load the auto-saved content into the Rich Content Editor, click the Yes button. To discard the auto-saved changes, click the No button. 05:08:Click the Reply or Save button. 05:11:View the content created in the Rich Content Editor. 05:15:This guide shows how to add and modify text in the Rich Content Editor as a student.

ดู Rich Content Editor

ดู Rich Content Editor

เมื่อมีการจัดทำหรือการแก้ไขในประกาศ ภารกิจ การพูดคุยหรือเพจ Rich Content Editor จะเปิดขึ้นมาเป็นค่าเริ่มต้น

คุณสามารถเพิ่มและจัดรูปแบบเนื้อหาโดยการใช้แถบเมนู [1] หรือแถบเครื่องมือ [2]

เปิดชอร์ตคัทแป้นพิมพ์

เปิดชอร์ตคัทแป้นพิมพ์

Rich Content Editor รองรับชอร์ตคัทแป้นพิมพ์ ดูหน้าต่างกับรายการชอร์ตคัทการใช้งานแป้นพิมพ์โดยคลิกที่ไอคอนแป้นพิมพ์ หรือกดปุ่ม Alt+F8 (บนแป้นพิมพ์ PC) หรือ Option+F8 (บนแป้นพิมพ์ Mac) พร้อมกันบนแป้นพิมพ์ของคุณ

ดูจำนวนคำ

ดูจำนวนคำ

คุณสามารถดูจำนวนคำทั้งหมด ดูจำนวนคำ อักขระและตัวอักษรทั้งหมดไม่รวมเคาะว่างโดยคลิกที่ลิงค์ นับจำนวนคำ (Word Count)

ปรับขนาดหน้าต่างเครื่องมือแก้ไข

ปรับขนาดหน้าต่างเครื่องมือแก้ไข

กรอกข้อความ

พิมพ์หรือวางข้อความที่คัดลอกไปยัง Rich Content Editor

ลบการจัดรูปแบบข้อความ

ลบการจัดรูปแบบข้อความโดยเลือกข้อความ [1] แล้วคลิกที่ไอคอนล้างการจัดรูปแบบ [2]

หมายเหตุ: ดูไอคอนล้างการจัดรูปแบบ โดยคุณอาจจะต้องคลิกที่ไอคอนตัวเลือก [3]  

เปลี่ยนขนาดแบบอักษร

เปลี่ยนขนาดแบบอักษร

เลือกข้อความที่คุณต้องการแก้ไข [1] แล้วคลิกที่เมนูแสดงรายการ ขนาดแบบอักษร (Font Size) [2] แล้วล็อคขนาดแบบอักษรที่คุณต้องการใช้ [3] คุณสามารถเลือกจากขนาดแบบอักษร 8, 10, 12, 14, 18, 24 หรือ 36pt

แก้ไขรูปแบบข้อความ

แก้ไขรูปแบบข้อความ

เลือกข้อความที่คุณต้องการแก้ไข [1] แล้วคลิกที่เมนูแสดงรายการ ย่อหน้า (Paragraph) [2] แล้วเลือกรูปแบบข้อความที่คุณต้องการใช้ [3] เลือกจาก Heading 2, Heading 3, Heading 4, Preformatted และ Paragraph styles

หมายเหตุ: ตามค่าเริ่มต้นหัวเรื่องหลักของประกาศ ภารกิจ การพูดคุย เพจ หรือแบบทดสอบจะเหมือนกับชื่อที่คุณกรอกเมื่อมีการจัดทำรายการ

ข้อความระยะห่างหนึ่งเท่า

ข้อความระยะห่างหนึ่งเท่า

กำหนดระยะห่างบรรทัดหนึ่งเท่าใน Rich Content Editor โดยกด Shift+Enter (บนแป้นพิมพ์ PC) หรือ Shift+Return (บนแป้นพิมพ์ Mac) นี่เป็นการคั่นบรรทัดแทนการแบ่งย่อหน้า

จัดรูปแบบการเน้นข้อความ

จัดรูปแบบการเน้นข้อความ

เลือกข้อความที่คุณต้องการจัดรูปแบบ [1]

กำหนดข้อความที่เลือกเป็นตัวหนาโดยคลิกที่ไอคอนตัวหนา [2] หรือกดปุ่ม Command+B (แป้นพิมพ์Mac) หรือ Ctrl+B (แป้นพิมพ์ PC)

กำหนดข้อความที่เลือกเป็นตัวเอียง โดยคลิกที่ไอคอนตัวเอียง [3] หรือกด Command+I (แป้นพิมพ์Mac) หรือ Ctrl+I (แป้นพิมพ์ PC)

ขีดเส้นใต้ข้อความที่เลือกโดยคลิกที่ไอคอนขีดเส้นใต้ [4] หรือกด Command+U (แป้นพิมพ์Mac) หรือ Ctrl+U (แป้นพิมพ์ PC)

เมื่อจัดรูปแบบข้อความที่เลือกแล้ว ลูกศรจะปรากฏขึ้นเหนือตัวเลือกที่เลือก [5]

ลงสีและแรเงาข้อความ

ลงสีและแรเงาข้อความ

เลือกข้อความที่คุณต้องการลงสี [1]

เปลี่ยนสีของข้อความโดยคลิกที่ไอคอนสีข้อความ [2]

แรเงาข้อความโดยคลิกที่ไอคอนสีพื้นหลัง [3]

เลือกสีจากเมนูแสดงรายการสี [4] คุณสามารถดูชื่อสีได้โดยการเลื่อนเมาส์ไว้เหนือแถบรายการสี [5]

ลบการจัดรูปแบบสีโดยคลิกที่ไอคอนลบสี [6]

เลือกสีกำหนดเองสำหรับข้อความโดยคลิกที่ไอคอนสีกำหนดเอง [7]

เลือกสีกำหนดเอง

เลือกสีกำหนดเอง

ใช้จานสีเพื่อเลือกโทนสี [1] และเฉดสี [2] นอกจากนี้คุณยังสามารถกรอกรหัสสี RGB [3] หรือกรอกรหัสสีเลขฐานสิบหก [4] ดูสีกำหนดเองของคุณในหน้าต่างแสดงสี [5]

ปรับใช้สีไปยังข้อความของคุณโดยคลิกที่ปุ่ม บันทึก (Save) [6]

ข้อความตัวยกและตัวห้อย

คุณสามารถจัดรูปแบบข้อความของคุณให้ปรากฏเป็นตัวยกหรือตัวห้อยได้ เลือกข้อความที่คุณต้องการแก้ไข [1]

คลิกที่ไอคอนตัวยก [2] กำหนดรูปแบบข้อความเป็นตัวยกโดยเลือกไอคอนตัวยก (Superscript) [3] จากเมนูแสดงรายการ กำหนดรูปแบบข้อความเป็นตัวห้อยโดยเลือกตัวเลือก ตัวห้อย (Subscript) [4]

จัดแนวข้อความ

จัดแนวข้อความโดยเลื่อนวางเคอร์เซอร์ไว้ด้านหน้าข้อความที่คุณต้องการจัดแนว [1] แล้วคลิกที่ไอคอนการจัดแนว [2] จากเมนูแสดงรายการ คุณสามารถเลือกจัดแนวข้อความทาง ซ้าย (Left) [3] ตรงกลาง (Center) [4] และ ขวา (Right) [5]

หมายเหตุ: ดูไอคอนการจัดแนว โดยคุณอาจจะต้องคลิกที่ไอคอนตัวเลือก [6]

เพิ่มหรือลดข้อความเยื้อง

เยื้องข้อความโดยคลิกที่ไอคอนเยื้อง [1]

หากข้อความของคุณเยื้องเข้า คุณสามารถลดการเยื้องของข้อความได้ ลดการเยื้องของข้อความโดยคลิกที่ไอคอนเพิ่มการเยื้อง [2] แล้วคลิกที่ตัวเลือก ลดการเยื้อง (Decrease Ident) [3]

คุณสามารถคลิก เพิ่มการเยื้อง (Increase Indent) หรือ ลดการเยื้อง (Decrease Indent) ได้หลายครั้งเพื่อเพิ่มหรือลดการเยื้องข้อความ

หมายเหตุ: ดูไอคอนการเยื้อง โดยคุณอาจจะต้องคลิกที่ไอคอนตัวเลือก [4]  

จัดแนวข้อความแบบกำหนดทิศทาง

จัดแนวข้อความแบบกำหนดทิศทาง

จัดแนวข้อความแบบกำหนดทิศทางโดยคลิกที่ลิงค์ กำหนดรูปแบบ ในแถบเมนู [1] แล้วเลือกตัวเลือก ทิศทาง (Directionality) [2] คุณสามารถจัดแนวข้อความของคุณจากซ้ายไปขวา [3] และจากขวาไปซ้าย [4]

จัดทำรายการหัวข้อย่อยหรือรายการลำดับเลข

เลือกข้อความที่คุณต้องการจะรวมไว้ในรายการของคุณ [1] แล้วคลิกที่ไอคอนแสดงรายการ [2] คุณสามารถเลือกรูปแบบรายการหัวข้อย่อย [3] หรือรูปแบบรายการลำดับเลขหรือตัวอักษร [4]

หมายเหตุ: ดูไอคอนรายการ โดยคุณอาจจะต้องคลิกที่ไอคอนตัวเลือก [5]

ดูรายการหัวข้อย่อย

ดูรายการหัวข้อย่อย

ดูรายการหัวข้อย่อย

ดูรายการลำดับเลข

ดูรายการลำดับเลข

ดูรายการลำดับเลข

ค้นหาและแทนที่เนื้อหา

เปิดการค้นหาและแทนที่

จากเมนู เครื่องมือ (Tools) [2] ให้คลิกที่ตัวเลือก ค้นหาและแทนที่ (Find and Replace) [2] หรือสามารถกด Command+F (แป้นพิมพ์ Mac) หรือ Control+F (แป้นพิมพ์ PC)

จากโมดัล ค้นหาและแทนที่ (Find and Replace) ให้กรอกเนื้อหาที่ต้องการแทนที่ในฟิลด์ ค้นหา (Find) [1] จากฟิลด์ แทนที่ด้วย (Replace with) [2] ให้กรอกเนื้อหาที่ต้องการใช้แทน

แทนที่เนื้อหาทั้งหมดพร้อมกันโดยคลิกที่ปุ่ม แทนที่ทั้งหมด (Replace All) [3]

แทนที่เนื้อหาเฉพาะที่ต้องการโดยคลิกที่ปุ่ม แทนที่ (Replace) [4]

หากมีเนื้อหาที่จะแทนที่หลายจุด คุณสามารถเลื่อนดูแต่ละรายการโดยคลิกที่ปุ่ม ก่อนหน้า (Previous) [5] และ ถัดไป (Next) [6]

ดูเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติ

ดูเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติ

หากคุณโหลดซ้ำหรือออกจากเพจขณะแก้ไขเนื้อหาใน Rich Content Editor Canvas จะบันทึกเนื้อหาของคุณโดยอัตโนมัติในแคชของเบราเซอร์นานถึงหนึ่งวัน เมื่อคุณโหลดเพจซ้ำหรือกลับไปที่เพจที่คุณกำลังแก้ไข Canvas จะแสดงข้อความระบุว่ามีเนื้อหาที่บันทึกอัตโนมัติอยู่ คุณสามารถแสดงตัวอย่างเนื้อหา ละทิ้งเนื้อหาหรือโหลดเนื้อหาลงใน Rich Content Editor

หมายเหตุ:

  • เนื้อหาที่บันทึกอัตโนมัติไม่ใช่คุณสมบัติการใช้งานที่มีการรับประกันและอาจไม่บันทึกเนื้อหาในบางสถานการณ์
  • ปริมาณพื้นที่จัดเก็บในเครื่องอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเบราเซอร์ที่คุณใช้
  • เนื้อหาบันทึกอัตโนมัติใช้งานได้เฉพาะในเพจที่มีหน้าต่าง Rich Content Editor เพียงหน้าต่างเดียวเท่านั้น
  • เนื้อหาบันทึกอัตโนมัติใช้งานได้เฉพาะในเบราเซอร์และคอมพิวเตอร์เครื่องเดียวกับที่คุณใช้เมื่อคุณจัดทำเนื้อหาต้นฉบับ

แสดงตัวอย่างเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติ

แสดงตัวอย่างเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติ

แสดงตัวอย่างเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติจาก Canvas โดยคลิกที่ปุ่ม แสดงตัวอย่าง (Preview)

โหลดเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติ

โหลดเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติ

โหลดเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติไปยัง Rich Content Editor โดยคลิกที่ปุ่ม ใช่ (Yes) [1] ทิ้งเนื้อหาบันทึกอัตโนมัติโดยคลิกที่ปุ่ม ไม่ (No) [2]

บันทึกการเปลี่ยนแปลง

บันทึกการเปลี่ยนแปลง

คลิกที่ปุ่ม บันทึก (Save)

หมายเหตุ: เมื่อมีการใช้ Rich Content Editor ในการพูดคุย (Discussions) ปุ่มบันทึก (Save) อาจปรากฏเป็นปุ่มโพสต์การตอบกลับ (Post Reply)

ดูเนื้อหา

ดูเนื้อหา

ดูเนื้อหาที่จัดทำใน Rich Content Editor